เมื่อเกิดอาการท้องเสีย เราต้องดูแล รักษา ป้องกันอย่างถูกวิธี แต่รู้หรือไม่ว่า อาหารก็มีส่วนสำคัญเช่นเดียวกัน ที่ทำให้อาการดีขึ้น วันนี้เราจะมาแนะนำ “อาหารที่ควรกิน และไม่ควรกิน” เมื่อเกิดอาการท้องเสียกัน เช็กให้ชัวร์นะคะ ถ้าอยากให้อาการดีขึ้น
เมื่อเกิดอาการท้องเสีย เราต้องควรหยุดกินอาหารภายใน 2-4 ชั่วโมง และควรจิบเกลือแร่โออาร์เอส (ORS) บ่อยๆ เพื่อป้องกันร่างกายขาดน้ำ หรือรับประทานยาบรรเทาอาการท้องเสีย
คำเตือน! ไม่ควรรับประทานยาหยุดถ่ายเด็ดขาด คลิกเพื่ออ่านเพิ่มเติม
ขณะเกิด “อาการท้องเสีย” ไม่ควรกิน!
- อาหารที่มีกากใย เช่นผัก ผลไม้
- อาหารที่ย่อยยาก เช่น อาหารทะเล แป้งที่มีส่วนผสมของเนย
- นม แอลกอฮอล์
- ชา กาแฟ
- อาหารที่มีรสจัด เช่น ส้มตำ ต้มยำ อาหารเค็มจัด เปรี้ยวจัด
- อาหารหมักดองทุกชนิด
- อาหารสุกๆ ดิบๆ
ควรกินอาการอะไรบ้าง หลังจากหยุดกิน 2-4 ชั่วโมง
- อาหารย่อยง่าย เช่น ข้าวต้ม หรือโจ๊ก และรสชาติต้องจืด
- ขนมปังเปล่า ไม่ทาแยม เนย หรือนม
- อาหารกลุ่ม B-R-A-T เป็นกลุ่มอาหารที่เหมาะกับคนที่มีอาการท้องเสีย ได้แก่ Banana (กล้วย), Rice (ข้าว), Apple (แอปเปิล) และ Toast (ขนมปังปิ้ง)
- โยเกิร์ตคงตัว ช่วยปรับสมดุลทางเดินอาหาร
แต่อาหารที่รับประทานเข้าไปนั้น เราต้องคำนึงถึงความสด สุก สะอาด ไม่ข้ามวัน และต้องเก็บในที่ที่มีอุณหภูมิเย็นที่มากพอ ไม่เช่นนั้น อาหารจะเกิดเชื้อรา แบคทีเรีย และทำให้เกิดอาการท้องเสียได้
และไม่ควรทานอาหารมากจนเกินไป เช่น การรับประทานบุฟเฟ่ต์ หรือการอดอาหารหนึ่งมื้อ เพื่อมากินอีกมื้อแบบจัดหนัก จัดเต็ม