เมื่อโซเชียลต่างแชร์วิธีรักษาเล็บขบ แบบไม่เจ็บ ซึ่งมีวิธีต่างๆ สารพัด แล้วจะชัวร์หรอ ว่าวิธีที่ใช้สามารถช่วยรักษาอาการเล็บขบได้จริง วันนี้ เราจะมาเช็กไปพร้อมกันว่า วิธีไหนสามารถรักษาอาการเล็บขบได้ ไปเช็กกันเลย
วิธีที่ 1 ใช้น้ำมันหอมระเหย เพื่อให้ผิวหนังนุ่ม และตัดเล็บขบได้ง่ายขึ้น
มีอาการท้องเสียขับถ่ายเหลว อาเจียนหลายครั้ง มีอาการปวดท้องเป็นอาการเด่น โดยทั่วไปอาการจะไม่รุนแรง แต่หากเกิดอาการรุนแรงจะเกิดจากอาการสูญเสียน้ำ และเกลือแร่จนร่างกายเกิดภาวะที่เรียกว่า Dehydration นั่นเอง
วิธีที่ 2 แช่เท้าในน้ำอุ่นผสมขมิ้น เพื่อช่วยลดอาการอักเสบ และฆ่าเชื้อแบคทีเรีย
มีอาการท้องเสียขับถ่ายเหลว อาเจียนหลายครั้ง มีอาการปวดท้องเป็นอาการเด่น โดยทั่วไปอาการจะไม่รุนแรง แต่หากเกิดอาการรุนแรงจะเกิดจากอาการสูญเสียน้ำ และเกลือแร่จนร่างกายเกิดภาวะที่เรียกว่า Dehydration นั่นเอง
วิธีที่ 3 แช่เท้าในน้ำอุ่น ผสมเกลือ 20 นาที จะช่วยทำให้เล็บอ่อนตัวลง และตัดง่ายขึ้น
การแช่เท้าในน้ำอาจทำให้เล็บอ่อนนุ่มลง แต่หากผสมเกลือลงไปอาจช่วยเพียงการขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วเท่านั้น หรือขี้ไคลหลุดออกได้ง่ายขึ้น ดังนั้นการแช่เท้าในน้ำอุ่นผสมเกลือไม่มีประสิทธิภาพกว่า แช่เท้าในน้ำอุ่นอย่างเดียว
วิธีที่ 4 ฝานมะนาวเป็นแว่นบางๆ ประคบบริเวณเล็บขบ จะช่วยลดอาการอักเสบได้
การใช้มะนาวมาประคบบริเวณแผลอาจเป็นผลเสีย มากกว่าผลดี เนื่องจากมะนาวมีฤทธิ์เป็นกรด อาจจะทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองได้ ดังนั้นมะนาวที่ฝานไม่มีส่วนช่วยในการรักษาเล็บขบ
วิธีที่ 5 การใช้บาล์ม มาทาบริเวณที่เป็นเล็บขบ จะช่วยในการรักษาได้
ก็ยังไม่ใช่วิธีที่สามารถรักษาอาการเล็บขบได้ แต่ก็สามารถช่วยให้ผิวบริเวณนิ้วนุ่มได้ เนื่องจาก บาล์มมีส่วนผสมของครีมบำรุงผิว
รักษาอย่างไรให้ถูกวิธี
- แช่เท้าในน้ำอุ่นวันละ 4 ครั้ง
- ล้างบริเวณเล็บด้วยสบู่วันละ 2 ครั้ง และเช็ดให้แห้ง
- ใช้เส้นด้าย ไม้จิ้มฟันก้านบางๆ สอดเข้าไปใต้เล็บแล้วงัดเล็บขึ้นมา ให้ทำด้วยความระมัดระวัง และเบามือที่สุด
หรือหากบริเวณที่เกิดเล็บขบ บวมแดง มีหนองไหลออกมาจากการติดเชื้อ ให้ใช้ยาทาแผลสด “Bactex” ที่มีสรรพคุณช่วยรักษาแผลสด แผลติดเชื้อ ยับยั้งแบคทีเรียที่ทำให้เกิดหนอง แถมตัวยาให้ความชุ่มชื้น แผลไม่แห้งเป็นสะเก็ดอีกด้วย